5 เทคนิค แต่งบ้านยังไงให้อยู่ในงบ ไม่บานปลาย
5 เทคนิค แต่งบ้านยังไงให้อยู่ในงบ ไม่บานปลาย
หลายๆ คนที่เพิ่งมีบ้าน หรือคอนโดหลังแรก อาจจะยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการตกแต่งบ้าน ปัญหายอดฮิตที่มักจะเกิดขึ้น คือ ควรจะตั้งงบยังไง และจะวางแผนยังไงให้แต่งบ้านอยู่ในงบ ไม่บานปลาย ก่อนที่จะตั้งงบประมาณ สิ่งที่ต้องคำนึงถึง มันควรมีอะไรบ้าง และควรแบ่งสัดส่วนยังไงดี?
วันนี้ผมมีเทคนิคง่ายๆ ให้เพื่อน ได้ลองนำไปปรับใช้กันดู ซึ่งน่าจะช่วยให้เพื่อนๆ สามารถควบคุมงบแต่งบ้านให้อยู่ในงบ ไม่บานปลายได้ดียิ่งขึ้น
ตั้งงบยังไงให้เหมาะสม และไม่บานปลาย
ก่อนที่จะตั้งงบ ผมอยากจะให้เพื่อนๆ ลองคิดดูว่า ตอนนี้เรามีอะไรบ้าง และยังขาดอะไรบ้าง จากนั้นถึงค่อยเริ่มตั้งงบประมาณครับ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มตั้งงบยังไงดี ผมมีวิธีการคำนวณง่ายๆ มาฝากครับ นั่นก็คือ ให้ตั้งงบจากราคาบ้านครับ โดยส่วนใหญ่จะตั้งประมาณ 10-20% ของราคาบ้าน (ในที่นี้ผมตั้งไว้ที่ 15-20% ของราคาบ้านครับ) จากนั้นก็มาดูว่างบประมาณดังกล่าว รวมอะไรบ้าง และจะแบ่งเป็นสัดส่วนเท่าไหร่
จากตัวอย่าง ผมแบ่งเป็นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ Built-in เป็นสัดส่วนมากที่สุด อยู่ที่ 45-50% รองลงมาคือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว อยู่ที่ 20-25% ซึ่งในส่วนนี้สามารถปรับได้เองตามความเหมาะสม และความต้องการของตัวเองได้เลยครับ ถึงเวลาที่เพื่อนๆ ได้ลองนำเทคนิคนี้ไปตั้งงบกันแล้วครับ เราจะไปขั้นตอนต่อไป คือ ขั้นตอน “แต่งบ้านยังไงให้อยู่ในงบ”
01 List รายการที่จะตกแต่งให้ครบ
ในส่วนนี้อยากให้เพื่อนๆ มีเวลาสัก 20-30 นาที ในการมานั่งทำรายการว่าอยากได้อะไรบ้าง เช่น ห้องนี้ต้องมีโซฟา โต๊ะกินข้าว ตู้วางทีวี ตู้เสื้อผ้า เป็นต้น จากนั้นก็ประมาณราคาคร่าวๆ ว่าแต่ละรายการ ราคาเท่าไหร่ ในส่วนนี้สำคัญมาก ยิ่งลงรายละเอียดมากเท่าไร ยิ่งคุมงบได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
เทคนิคเล็กๆ คือ แบ่งของตามหมวดหมู่ที่กำหนดไว้ตั้งแต่แรก เช่น หมวดเฟอร์นิเจอร์ Built-in, เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว, ของตกแต่งบ้าน เพื่อที่จะสามารถเช็คได้ว่า ยังอยู่ในงบ และเป็นไปตามสัดส่วนที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่
02 ตัด-ลด รายการที่ไม่จำเป็นออก
ถ้าขั้นตอนแรกถ้ายังเกินงบอยู่ ให้เริ่มตัดรายการที่ไม่จำเป็นออก เช่น ของตกแต่ง อาจจะตัดออกไปก่อน หรือบางอย่างอาจจะลองลดสเปคลง เช่น จากแอร์ฝังเพดาน เป็นแอร์ติดผนังแทน ฟูกที่นอนอาจจะหารุ่นเทียบเท่า หรือเลือกตกแต่งเฉพาะบางพื้นที่ก่อน
03 หาวัสดุทดแทน
เฟอร์นิเจอร์ Built-in หรือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ในบางครั้งแค่เราเปลี่ยนวัสดุ งบตกแต่งอาจจะลดลงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยกตัวอย่าง เช่น
– เปลี่ยนจากหินจริง เป็นกระเบื้อง หรือแผ่นลามิเนตแทน : อย่างพื้นห้อง เราอาจจะเปลี่ยนจากการปูพื้นด้วยหินจริงเป็นกระเบื้องแทน พวกเฟอร์นิเจอร์ หรือผนังตกแต่ง ก็อาจจะใช้แผ่นลามิเนตลายหินมาแทนในส่วนของผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ก็ดูสวยไม่แพ้กัน
– เปลี่ยนจากหนังจริง เป็น หนังเทียม : สมัยนี้หนังสังเคราะห์มีผิว และลวดลายที่เหมือนกับหนังจริงมากๆ หรือถ้าใครยังอยากนั่งบนโซฟาหนังจริงอยู่ แนะนำให้ใช้เฉพาะส่วนที่ผิวหนังเราสัมผัส อย่างเบาะที่นั่ง พนักพิงหลัง แต่ส่วนอื่นๆ ด้านข้างหรือด้านหลังโซฟาก็ใช้เป็นหนังเทียมทดแทน
– เปลี่ยนจากไม้จริง เป็นลามิเนตลายไม้ : พวกตู้เสื้อผ้า หรือหน้าบานตู้ต่างๆ ลองหาลามิเนตลายไม้สวยๆ มาใช้แทน รับรองว่าเฟอร์นิเจอร์ดูสวย ดูดีไม่แพ้ไม้จริงอย่างแน่นอนครับ
– เปลี่ยนจากหินนำเข้าจากต่างประเทศ เป็นหินในประเทศ : หินในประเทศมีลวดลายสวยๆ ไม่แพ้กับหินนำเข้าจากต่างประเทศเลย ใครที่อยากจะให้ลดงบลง การเปลี่ยนสเปคหินเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจมากๆ ครับ
04 รอโปรโมชั่นที่ใช่
เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือฟูกที่นอน มักจะมีการจัดงานแสดงสินค้า หรือตามแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ มันจะมีโปรโมชั่น Double Day ไม่ว่าจะเป็น 8.8, 9.9, 10.10, 11.11 เพื่อนๆ อาจจะลองไปติดตามดู บางทีอาจจะได้โปรโมชั่นที่เหมาะกับเราก็ได้ครับ
05 หามืออาชีพมาช่วยดูแล
ถ้าทำทุกอย่างแล้ว รู้สึกว่าเสียเวลาเหลือเกิน ยังเกินงบอยู่ ที่เลือกๆไป ไม่แน่ใจว่าจะเข้ากันไหม จะสวยหรือเปล่า ประโยชน์ใช้สอยจะครบถ้วนไหม ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญครับ
ข้อดีของการหามืออาชีพมาดูแลคือ เค้าจะช่วยออกแบบให้ออกมาสวย ดูเข้ากัน ไม่เสียเงินมากเกินความจำเป็น และช่วยออกแบบการใช้งานให้เหมาะกับเราอีกด้วย บางทีเราอาจจะไม่แน่ว่า ควรตัดเฟอร์นิเจอร์ตัวไหนออกดี ให้ภาพรวมยังสวย และทำยังไงให้อยู่ในงบได้ ปัญหาเหล่านี้ มืออาชีพช่วยดูแลได้อย่างแน่นอนครับ
เพื่อนๆ คนไหนสนใจ อยาก ออกแบบ ตกแต่ง ภายใน บ้าน คอนโด กับ Paperroom รับบิ้วอินคอนโด สามารถเข้าไปพูดคุยกับ interior design ของพวกเราที่…
