ALWAYS at Setthasiri Pattanakarn
ALWAYS at Setthasiri Pattanakarn
.
วันนี้ Paperroom จะมารีวิว โครงการ Always at Setthasiri Pattanakarn
โดยจะเล่าเกี่ยวกับแนวคิด และรายละเอียดต่างๆ ในการออกแบบของห้องแต่ละห้อง
.
ใครที่สนใจ เลื่อนลงไปอ่านได้เลยครับ 🙂
มุมแรกที่พร้อมจะต้อนรับทุกคนที่เข้ามาที่บ้านหลังนี้ก็คือ มุมรับแขก ที่ต่อเนื่องกับมุมรับประทานอาหาร โดยจากรูปด้านซ้ายมือจะเป็นโซฟาไว้นั่งพักผ่อน ด้านหลังจะเป็นผนังที่ตกแต่งด้วยคิ้วทำสีเดียวกับผนัง และด้านขวามือจะเป็นพื้นที่สำหรับแขวนทีวี ตู้เก็บรองเท้า และชั้นโชว์ของสะสม
โซฟาที่เลือกใช้จะเป็นโซฟาตัว L หุ้มด้วยผ้าบุสีเทาอมครีมซึ่งจะเข้ากันดีกับผนังตกแต่งด้วยคิ้วด้านหลัง และพื้นลายไม้โทนสีอ่อน จะมาพร้อมกับ Coffee Table ที่ทำจากหินอ่อนโทนสีขาว ตัดกับพรมโทนสีเทา ที่มีความเรียบ แต่มีลวดลายที่ออกแบบเป็นเส้นตรงหลายๆ เส้น คล้ายกับไม้ระแนงตรงผนังทีวี
ด้านตรงข้ามกับโซฟา จะเป็นผนังทีวี โดยด้านซ้ายมือสุดจะเป็นตู้เก็บรองเท้าบานเปิดทึบลายไม้ที่เป็นสีโทนเดียวกับพื้น ถัดมาเป็นตู้โชว์ของสะสมสีเทา
.
ถ้าดูเผินๆ จะดูเป็นชั้นธรรมดา แต่ถ้ามองเข้าไปจริงๆ จะเห็นว่าชั้นทุกชั้นจะเป็นกระจกใส ปิดด้วยขอบอลูมิเนียมสีทองซึ่งเข้ากันดีกับมือจับตู้รองเท้าที่เป็นสีทองเช่นเดียวกัน
ถัดมาจะเป็นผนังแขวนทีวี โดยผนังที่เห็นจะเป็นหินอ่อนโทนสีเทา โดยเลือกให้มีโทนสีเทาคล้ายกับตู้โชว์ ตัดกับสีดำของตู้เก็บของใต้ทีวีที่จะช่วยให้พื้นที่นี้ดูโดดเด่นมากขึ้น
.
นอกจากนี้เรายังเพิ่มผนังระแนงลายไม้โทนสีอ่อนเข้าไป ผนังระแนงไม้เมื่อกระทบกับแสงไฟที่ซ่อนอยู่ด้านบน และด้านล่างของผนังหินอ่อน จะเกิดแสง และเงาที่ดูสวยงาม และน่าสนใจมากๆ ช่วยทำให้ผนังทีวีบริเวณนี้ดูแตกต่าง แต่ลงตัวกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างมาก
มุมนี้จะเห็นว่า สีเทาของผนังหินอ่อน และตู้โชว์ ตัดกับโทนไม้โทนสีอ่อนของตู้รองเท้า ได้อย่างลงตัว และยิ่งได้สีดำของตู้เก็บของมาช่วย ทำให้ผนังทีวีผนังนี้ดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
ถัดจากพื้นที่นั่งเล่น จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ารอบๆพื้นที่บริเวณนี้จะประกอบไปด้วยสีเพียง 2 สีเท่านั้น คือ สีของไม้โทนสีอ่อน และสีเทาทั้งจากผนัง และผ้าม่าน
.
ด้วยเหตุนี้ โต๊ะกินข้าวและเก้าอี้จึงถูกเลือกเป็นโทนสีดำ เพื่อทำให้ดูโดดเด้งขึ้นมาจากพื้นที่รอบๆ
Top ของโต๊ะกินข้าวจะเป็นหินเทียมโทนสีเทาเข้ม ซึ่งหินเทียมจะมีลักษณะทนต่อรอยขีดข่วน ความร้อน และคราบอาหารต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ถ้าสังเกตดีๆ Top โต๊ะกินข้าวจะถูกเลือกให้เป็นสีเทาเฉดเดียวกับหินอ่อนตรงผนังทีวี นอกจากนี้ขาโต๊ะกินข้าว และเก้าอี้ที่มีโทนสีดำ ก็ยังเป็นเฉดเดียวกับตู้เก็บของใต้ทีวี ทำให้มั่นใจได้ว่า พื้นที่ทั้ง 2 บริเวณนี้จะดูเข้ากัน และเป็นหนึ่งเดียวกัน
มุมเคาน์เตอร์ Pantry ถูกออกแบบให้เป็นลายไม้โทนสีอ่อน ตัดกับสีดำของ Top เคาน์เตอร์ มู่ลี่ลายไม้สีดำ และตู้เย็น แต่ยังแอบเพิ่มความหรูหรานิดๆ ด้วยบานเปิดตู้แขวนที่ทำจากอลูมิเนียมสีทอง และกระจกใสสีชาทอง ซึ่งจะเข้ากันดีกับไฟซ่อนโทนสี Warm white อีกต่างหาก
ด้านหลังของผนังทีวี ยังแอบมีโต๊ะ Console สีดำเล็กๆ ไว้สำหรับวางกุญแจ หรือของกระจุกกระจิกเล็กๆ น้อยๆ สีดำของโต๊ะตัวนี้จะตัดกับผนังคิ้วบัวที่มีดีเทลเหมือนกับผนังด้านหลังโซฟา
ถัดมา เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูห้องนอนของบ้านหลังนี้ โดยจุดที่แตกต่างจากห้องนั่งเล่นก็คือ พื้นของห้องนอนจะเป็นไม้โทนสีเข้ม ทำให้ผนังห้องนอนจึงถูกออกแบบเป็นโทนสีที่สว่างกว่าผนังชั้นล่าง
ผนังหัวเตียงตกแต่งด้วยคิ้วโทนสีขาวครีม และเนื่องจากบ้านหลังนี้หน้าต่างอยู่ 2 บานซ้าย-ขวา เราจึงออกแบบให้มีบานเลื่อนตกแต่งด้วยคิ้วเช่นเดียวกับหัวเตียง ช่วยให้ไม่เกิดแสงเข้ามาในยามเช้า และยังมีดีไซน์เดียวกับหัวเตียงอีกด้วย
ถัดจากผนังหัวเตียง จะเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆ ซึ่งเลือกเป็นไม้โทนสีดำ ตัดกับเก้าอี้โทนสีเทาอ่อน
บริเวณหน้าห้องน้ำถูกออกแบบให้เป็น Walk-in Closet เล็กๆ โดยตู้เสื้อผ้าทั้งหมดจะเป็นลายไม้โทนสีอ่อน ตัดกับบานเปิดที่เป็นอลูมิเนียมสีดำ กระจกใสสีชาทอง ซึ่งในแต่ละตู้เสื้อผ้าจะมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกัน อย่างตู้ด้านซ้ายมือ จะถูกออกแบบให้เป็นตู้โชว์กระเป๋า ถูกออกแบบให้เป็นชั้นวางของกระจกใสสีชาทอง ปิดด้วยขอบอลูมิเนียมสีดำ เช่นเดียวกับบานเปิดตู้
ด้านในสุดถูกออกแบบให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งโทนสีขาว ซึ่งจะตัดกับพื้นไม้โทนสีเข้ม และตู้เสื้อผ้าลายไม้โทนสีอ่อน โดยมีกระจกแต่งหน้าเฟรมสีดำสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน
ด้านหลังของโต๊ะเครื่องแป้งนี้จะมีหน้าต่างบานเล็กๆ อยู่ จึงติดผ้าม่านโทนสีเทาอ่อนทั้งผนัง ข้อดีของผ้าม่าน นอกจากจะช่วยบังแสงแล้ว ความอ่อนช้อยของผ้าม่าน ยังช่วยให้พื้นที่บริเวณนี้ดูนุ่มนวล อ่อนหวาน และไม่รู้สึกแข็งทื้อจนเกินไป
ถัดจากห้องนอน จะขอพาเพื่อนๆ ไปดูห้องทำงานของบ้านหลังนี้ เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเห็นโต๊ะทำงานลายไม้ที่ยาวจากผนังฝั่งนึง ยาวไปอีกผนังนึง โทนสีของไม้จะเข้ากันกับพื้นไม้ และผนังติดคิ้วโทนสีเทาอมครีม แต่เรายังทำให้ดูโดดเด่นด้วยเก้าอี้ทำงาน มู่ลี่ลายไม้ และมือจับลิ้นชักสีดำ
ด้านซ้ายมือถูกออกแบบให้เป็นชั้นวางหนังสือ และตู้เก็บของสีดำ โดดเด่นด้วยเสาเหล็กสีดำที่วิ่งจากฝ้าเพดานมาถึงตู้เก็บของ และยังทำหน้าที่เป็นคานรับน้ำหนักชั้นวางหนังสืออีกด้วย
เสาเหล็กถูกออกแบบให้มี 2 เสา มีลักษณะเหมือนกับคีบเสาที่ทำหน้าที่เป็นคานรับชั้นหนังสือ และความตั้งใจของ Designer อยากให้ตู้นี้ดูเรียบง่ายมากที่สุด ทำให้บานของตู้เก็บของมีลักษณะเรียบ และซ่อนมือจับเอาไว้
มุมนี้จะเห็น โทนสีของห้องนี้ประกอบด้วย สีครีมอ่อนของเก้าอี้อาร์มแชร์ ตัดกับสีดำของตู้หนังสือ โดยมีสีเทาอมครีมของผนังเป็นตัวเชื่อมให้ทั้ง 2 สีเข้ากัน
.
สุดท้ายนี้ขอเอาใจเพื่อนๆ ที่อยากเห็น Detail ต่างๆ ของบ้านหลังนี้ ใครที่สนใจลองเลื่อนลงไปดูได้เลยครับ 🙂
ผนังคิ้วบัว / โต๊ะทำงานลายไม้ / มู่ลี่สีดำ
ผนังลายหินอ่อนสีเทา / ระแนงลายไม้โทนสีอ่อน / ตู้เก็บของสีดำ / Diffuser ที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีกลิ่นอายเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
ผนังคิ้วบัวที่ถูกแสงแดดพาดผ่าน
ผนังคิ้วบัว / หินอ่อนสีขาว / ตู้ระแนงไม้สีดำ
เตียงนอนหุ้มด้วยผ้าสีเทาอมครีม / โต๊ะหัวเตียงสีขาว มือจับสีทอง / บานเลื่อนบังหน้าต่าง กรุด้วยคิ้วสีขาวครีม
ผนังหัวเตียง / บานเลื่อน / คิ้วตกแต่งโทนสีขาวครีม
.
และนี่คือภาพงานตกแต่งทั้งหมดของที่ Paperroom ได้เข้าไปแต่งให้กับบ้านโครงการ Setthasiri Pattanakarn หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบกันนะครับ 🙂
.
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากตกแต่งบ้านสไตล์ Always กดที่ปุ่มข้างล่าง เพื่อติดต่อกับ Designer ของเราได้เลยครับ